ขับสารพิษในเลือด

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ขับสารพิษในเลือด ปวดหัว ไมเกรน ปวดหัวไมเกรนกับการดื่มโคโรฟิลล์ และโคโรฟิลล์ (Colophyll)

ปวดหัวไมเกรนกับการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll)

ไมเกรนเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แต่พบบ่อยในช่วงอายุ 22 – 55 ปี ผู้หญิงมีโอกาสมากกว่าผู้ชาย 3 เท่า อาการที่เกิดมักมีอาการปวดตุบๆ ที่ขมับหรือเบ้าตาซีกใดซีกหนึ่งตามจังหวะการเต้นของชีพจร แต่บางครั้งอาจปวดตื้อๆ อาจปวดข้องหนึ่งข้างสลับข้างกัน ระยะเวลาการปวดมักปวดเป็นชั่วโมง หรือเป็นวันๆ ก่อนปวดมักมีอาการตาพร่า ตาลาย ถ้าปวดรุนแรงจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
การเกิดไมเกรนยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของการปวดศีรษะแบบไมเกรน เพียงแต่มีข้อสันนิษฐานว่าเกิดจากการบีบตัวหรือขยายตัวของหลอดเลือดในสมองมากกว่าปกติ จึงทำให้เกิดการปวดศีรษะขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
ในปัจจุบันการบำบัดโรคไมเกรนเป็นการหยุดอาการปวดเป็นครั้งคราวเท่านั้น เมื่อหมดฤทธิ์ของยาก็ต้องใช้ยาซ้ำไปตลอด แต่อาการก็ไม่ได้หายขาดมักเป็นแบบเรื้อรัง ไมเกรนไม่ใช่แค่มีอาการปวดศีรษะเท่านั้นแต่เป็นการสะท้อนในเรื่องของความเสื่อมโทรมของร่างกาย การดูแลรักษาสุขภาพจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญ

ปวดหัวไมเกรนเป็นประจำ ต้องการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll) ต้องดื่มอย่างไร

1. ในสัปดาห์แรก เป็นการปรับสภาพการได้รับสารอาหาร ประมาณ 2 – 5 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
2. ช่วงวันที่ 1 - 7 ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

อาการปวดศีรษะจะมากขึ้น รวมถึงมีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว บางรายอาจมีไข้หลายวัน แต่ให้รับประทานต่อไปเรื่อยๆ

3. ช่วงวันที่ 8 - 15 ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

อาการในช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าความถี่ในการปวดหัวไมเกรนเริ่มลดน้อยลง อาการปวดจะค่อยๆ ลดลง และไม่พบอาการปวดในที่สุด

4. งดการนอนดึก พยายามหลีกเลี่ยงอารมณ์เครียด หาเวลาออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ
5. ห้ามทานอาหารทำลายกระดูก ได้แก่ ผงชูรส น้ำอัดลมที่มีสีดำ
6. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ที่รับจากโรงพยาบาลได้

โคโรฟิลล์ (Colophyll) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ปริมาณและราคา บรรจุ 100 กรัม ราคา 480 บาท

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่ http://colophyllsaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088 415 3926

ID Line : bua300908

อีเมล์ sboonmuen@gmail.com

ขับสารพิษในเลือด โรคกระดูกทับเส้น โรคกระดูกทับเส้นกับการดื่มโคโรฟิลล์ และโคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคกระดูกทับเส้นกับการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคกระดูกทับเส้น เกิดจากการที่เส้นประสาทบริเสณกระดูกสันหลังถูกกดทับ สันหลังของคนเรา ประกอบด้วย กระดูกสันหลังชิ้นย่อยๆ เรียงต่อกันเป็นแนวจากต้นคอจนถึงก้นกบ ระหว่างกระดูกแต่ละข้อก็จะมีแผ่นกระดูกอ่อนที่เรียกว่า หมอนรองกระดูกสันหลัง คั่นกลางทำหน้าที่ป้องกันการเสียดสี และภายในโครงกระดูกสันหลัง ประกอบด้วย เส้นประสาทแตกแขนงจากไขสันหลังไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกาย เส้นประสาทที่แยกออกมาจากไขสันหลัง เรียกว่า รากประสาท จะอยู่ชิดกับหมอนรองกระดูก เมื่อหมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวกดทับรากประสาทก็จะทำให้เกิดอาการปวดตามส่วนต่างๆ ที่เส้นประสาทส่งไปถึง

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกระดูกทับเส้น เป็นมา 6 เดือน มีอาการปวดมากบริเวณบั้นเอว ถ้าดื่มโคโรฟิลล์เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายจะต้องดื่มอย่างไร...…?

1.ในช่ว 3 - 7 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวันจะแสดงอาการออกมา 2 แบบ คือ
• แบบที่ 1 บางท่านอาจเกิดสภาวะครั่นเนื้อครั่นตัวจนถึงเป็นไข้ และมีอาการการปวดมากขึ้นมากกว่าเดิม ถ้าท่านปวดมากสามารถใช้ยาแก้ปวดแผนปัจจุบันร่วมด้วยได้เพื่อบรรเทาอาการ
• แบบที่ 2 บางท่านอาจไม่เกิดอาการปวดใดๆ แต่จะรู้สึกเบาเนื้อเบาตัวในช่วง 3 วันแรก อาการปวดน้อยลงกว่าเดิม จนไม่มีอาการปวดในช่วงหลังวันที่ 7

2. ในช่วง 8 - 14 วัน ให้ใช้ปริมาณโคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
3. ห้ามทานอาหารทำลายกระดูก ได้แก่ ผงชูรส น้ำอัดลมที่มีสีดำ
4. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ที่รับจากโรงพยาบาลได้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ขับสารพิษในเลือด โรคกรดไหลย้อน โรคกรดไหลย้อนกับการดื่มโคโรฟิลล์ และโคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคกรดไหลย้อนกับการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll)

ปัจจุบัน มีจำนวนผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อน ประมาณ 1 ใน 5 คน พบในคนทั่วไป ทุกกล่ม ทุกช่วงอายุ แต่จะพบได้มากในคนอ้วน หรือสูบบุหรี่ ซึ่งโรคกรดไหลย้อนเป็นภาวะที่มีกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ซึ่งหลอดอาหารเป็นอวัยวะที่ไม่ทนต่อกรด จึงทำให้เกิดการอักเสบของหลอดอาหารขึ้น โดยปกติแล้วหลอดอาหารจะมีการบีบตัวไล่อาหารลงด้านล่างและหูรูด ทำหน้าที่ป้องกันการไหลย้อนของน้ำย่อย กรด หรืออาหาร ไม่ให้ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร หูรูดส่วนนี้ทำงานได้น้อยลงในบางคนที่จะตรวจพบการไหลย้อนของกรด ถ้ามีมาก อาจไหลออกนอกหลอดอาหาร อาจทำให้มีผลต่อกล่องเสียง ลำคอ หรือปอดได้ หากละเลยไม่ไปพบแพทย์ เพื่อทำการรักษา อาจทำให้เรื้อรังกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้

ผู้ป่วยที่เป็นโรคกรดไหลย้อนมานานหลายปี การดื่มโคโรฟิลล์เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกาย

1. ให้ใช้สารสกัดโคโรฟิลล์ ปริมาณ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ ครึ่งแก้วประมาณ 50 - 100 ซีซี ดื่มตอนเช้าก่อน 6 โมงเช้า และ ก่อนรับประทานอาหารประมาณ 20 นาที ทุกวัน จนกระทั้งอาการดีขึ้น

ช่วงวันที่ 1 -2 อาการปวดท้อง แสบท้องจะลดน้อยลง
ช่วงวันที่ 3 - 7 อาการในช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าไม่มีอาการแสบท้อง หรือปวดท้องก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังรับประทานอาหาร

2. งดทานอาหารที่มีรสจัด
3. ห้ามทานอาหารทำลายกระดูก ได้แก่ ผงชูรส น้ำอัดลมที่มีสีดำ
4. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน ที่รับจากโรงพยาบาลได้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ขับสารพิษในเลือด โรคกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะอาหารกับการดื่มโคโรฟิลล์ และ โคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคกระเพาะอาหารกับการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคกระเพาะอาหาร คือ ภาวะที่มีแผลเยื่อบุกระเพาะ และลำไส้ถูกทำลาย ถึงแม้ว่าจะเรียกว่าโรคกระเพาะ แต่สามารถแบ่งออกได้ เป็นแผลที่เยื่อบุกระเพาะ และแผลที่เยื่อบุลำไส้

ผู้ที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะอาหารแบบเรื้อรัง เป็นมานานหลายปี ถ้าสามารถดื่มโคโรฟิลล์ เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกาย

1. ให้ใช้สารสกัดโคโรฟิลล์ ปริมาณ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ ครึ่งแก้วประมาณ 50 - 100 ซีซี ดื่มตอนเช้าก่อน 6 โมงเช้า และ ก่อนรับประทานอาหารประมาณ 20 นาที ทุกวัน จนกระทั่งอาการดีขึ้นโดยท่านสามารถสังเกตได้ด้วยตนเอง

ช่วงวันที่ 1 -2 อาการปวดท้อง แสบท้องจะลดน้อยลง
ช่วงวันที่ 3 - 7 อาการในช่วงนี้จะสังเกตได้ว่าไม่มีอาการแสบท้อง หรือปวดท้องก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังรับประทานอาหาร

2. งดทานอาหารที่มีรสจัด
3. ห้ามทานอาหารทำลายกระดูก ได้แก่ ผงชูรส น้ำอัดลมที่มีสีดำ
4. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบัน เช่น ยาลดกรดที่รับจากโรงพยาบาลได้

โคโรฟิลล์มีสรรพคุณช่วยล้างพิษในร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทาน และยังบำรุงเลือดอีกด้วย

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ขับสารพิษในเลือด ไทรอยด์ ไทรอยด์เป็นพิษ โรคไทรอยด์กับการดื่มโคโรฟิลล์ และโคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคไทรอยด์กับการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll)

ผู้ป่วยที่เป็นโรคไทรอยด์ (แบบเป็นพิษ) ถ้าดื่มเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายจะต้องดื่มอย่างไร ?

1. โรคไทรอยด์แบบเป็นพิษ การใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

1-5 วันแรก ให้ผสมโคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
6 - 15 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
หลังจาก 15 - 30 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 4 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

โดยสามารถสอบถามอาการจากผู้ป่วยได้ตลอดเวลา อาการทุกอย่างจะทุเลาดีขึ้นตามลำดับ
2. ควรงดการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ยกเว้น เนื้อปลาทานได้
3. ห้ามดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม (โดยเฉพาะน้ำอัดลมที่มีสีดำ) น้ำตาลทรายขาว

4. งดการรับประทานของหมักของดอง แตงโมเนื้อแดงๆ
5. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันที่รับจากโรงพยาบาลได้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ผู้ป่วยที่เป็นโรคไทรอยด์ (แบบไม่เป็นพิษ) ถ้าดื่มเพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายจะต้องดื่มอย่างไร...…?

1. โรคไทรอยด์ (แบบไม่เป็นพิษ) การใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

1-5 วันแรก ให้ผสมโคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
6 - 15 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
หลังจาก 15 - 30 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 4 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
โดยทั่วไปหลังจาก 30 วัน อาการจะเริ่มดีขึ้น (แต่เฉพาะบางท่านที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก จะเห็นผลภายใน 15 วันแรกที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์) โดยสามารถสอบถามอาการจากผู้ป่วยได้ตลอดเวลา สังเกตได้ว่า ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย

2. ถ้าเป็นไปได้งดการรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ยกเว้นเนื้อปลาทานได้
3. ห้ามดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ น้ำอัดลม (โดยเฉพาะน้ำอัดลมที่มีสีดำ) น้ำตาลทรายขาว
4. งดการรับประทานของหมักของดอง แตงโมเนื้อแดงๆ
5. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันที่รับจากโรงพยาบาลได้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ขับสารพิษในเลือด โรคไตกับการดื่มโคโรฟิลล์ และ โคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคไตกับการดื่มโคโรฟิลล์ (Colophyll)

ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต (แบบยังไม่ฟอกไต) กับการดื่มโคโรฟิลล์เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกาย

โรคไตควรดื่มโคโรฟิลล์ อย่างไร ?

ผู้ป่วยโรคไตให้ดื่มโคโรฟิลล์ผสมน้ำได้ตามปกติ คือ
1. ช่วง 1 - 5 วันแรก ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
2. ช่วง 6 - 15 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน
3. หลังจาก 15 - 30 วัน ให้ใช้โคโรฟิลล์ ปริมาณ 4 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

โดยทั่วไปหลังจาก 30 วัน อาการจะเริ่มดีขึ้น (แต่เฉพาะบางท่านที่สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากจะเห็นผลภายใน 7 วันแรกที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์) โดยสามารถสอบถามอาการจากผู้ป่วยได้ตลอดเวลา สังเกตได้ว่าปัสสาวะมีความถี่น้อยลงมาก อาการเบาเนื้อเบาตัวอย่างเห็นได้ชัด เช่น ตอนกลางคืนปัสสาวะ 5 ครั้ง จะลดลงเหลือ 3 ครั้ง และ 2 ครั้ง และจนเป็นปกติ หลังจากนั้นให้ลดปริมาณการใช้ โคโรฟิลล์ ปริมาณ 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน เพื่อปรับสมดุลของร่างกาย

4. ห้ามทานอาหารทำลายกระดูก ได้แก่ ผงชูรส น้ำอัดลมที่มีสีดำ น้ำตาลทรายขาว
5. ห้ามดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ เช่น สุรา เบียร์

6. หากเป็นไปได้เลิกรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด อาหารรสเค็มจัด อาหารทะเล ยกเว้นเนื้อปลาทานได้
7. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันที่รับจากโรงพยาบาลได้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

ขับสารพิษในเลือด หอบหืด แพ้อากาศ โรคภูมิแพ้กับการดื่มโคโรฟิลล์ และโคโรฟิลล์ (Colophyll)

โรคภูมิแพ้กับการดื่มโคโรฟิลล์

ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้มานานหลายปี มีน้ำมูกไหลตลอดเวลา มีอาการจามตอนเช้าหรือช่วงเวลาที่อาการเย็นหรือฝนใกล้ตก มีอาการแพ้อากาศตลอดเวลาที่มีอากาศเย็น มีผื่นคันคล้ายๆ ลมพิษ สามารถดื่มโคโรฟิลล์ เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้ดีขึ้นได้

โรคภูมิแพ้ควรการดื่มโคโรฟิลล์อย่างไร ?
1. ให้ใช้สารสกัดโคโรฟิลล์ ปริมาณ 3 ช้อนชา ผสมน้ำ 1.5 ลิตร ดื่มแทนน้ำตลอดทั้งวัน

ช่วงวันที่ 1 - 7 อาการช่วงนี้จะจามบ่อย มีน้ำมูกออกมากขึ้น บางรายอาจเป็นไข้ อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง บางท่านอาจมีอาการปวดหัวร่วมด้วย แต่ให้ดื่มต่อไปเรื่อยๆ จะสังเกตว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ไม่เกินระยะเวลา 1 เดือน น้ำมูกลดน้อยลง อาการจามหายไป

2. ห้ามรับประทานอาหารทำลายกระดูก ได้แก่ ผงชูรส น้ำอัดลมที่มีสีดำ รวมถึงยาฆ่าแมลงจากผักและผลไม้
3. งดการดื่มนมวัว หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมวัว
4. หากเป็นไปได้ให้เลิกรับประทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด (ยกเว้นเนื้อปลาทานได้) ลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
5. สามารถใช้ร่วมกับยาแผนปัจจุบันที่รับจากโรงพยาบาลได้

ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้

โคโรฟิลล์ (Colophyll) มีประโยชน์ คือ

1. ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส
2. ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย เพิ่มความกระปรี่กระเปร่า
3. ช่วยลดเลือนรอยคล้ำรอบดวงตา
4. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
5. ช่วยลดอาการภูมิแพ้ โรคหอบหืด แพ้อากาศ
6. ช่วยเพิ่มปริมาณของเม็ดเลือดแดงให้สมดุล
7. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
8. ช่วยกำจัดสารพิษภายในร่างกาย
9. ช่วยในการบำบัดรักษาโรคต่างๆ
10. ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
11. ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ และไมเกรน
12. ช่วยลดปัญหาการเกิดเส้นเลือดหัวใจตีบตัน หรือเส้นเลือดขอด
13. ช่วยลดปัญหากลิ่นตัว หรือกลิ่นที่เกิดจากอวัยวะภายในร่างกาย
14. ใช้เป็นยาดับกลิ่นปาก (เห็นผลน้อยมาก)
15. ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารและลำไส้
16. ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างเป็นปกติ
17. ช่วยบรรเทาและรักษาโรคท้องผูก
18. ช่วยบรรเทาอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
19. ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
20. ช่วยทำความสะอาดบาดแผลให้สะอาดได้ดีกว่าสารชนิดอื่น
21. ช่วยป้องกันโรคตับอักเสบ และไตวาย
22. ช่วยฟืนฟูการทำงานของตับ
23. ช่วยต้านการติดเชื้อต่างๆ (แต่มีประสิทธิภาพน้อยมากๆ)
24. ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
25. ใช้รักษาแผลและช่วยการสมานบาดแผล
26. ช่วยดับกลิ่นเหม็นของแผล
27. ช่วยลดอาการเป็นพิษหรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิดได้

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้