วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ขับสารพิษในเลือด ล้างพิษ บำรุงเลือด อัลฟาฟ่า (Alfalfa) และโคโรฟิลล์ (Colophyll)

อัลฟาฟ่า คืออะไร 

อัลฟาฟ่า (Alfalfa ) เป็นพืชพื้นเมืองของเอเชียตะวันตก และแถบเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก สามารถเพาะปลูกได้ทุกอากาศทั่วโลก  จัดเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีสักษณะเป็นฝัก อัลฟาฟ่ามีระบบรากที่มหัศจรรย์มากสามารถชอนไชลงไปได้ลึกกว่า 130 ฟุต จึงมีประสิทธิภาพ ในการดูดซึมธาตุอาหารได้มากกว่าและบริสุทธิ์กว่า อีก ทั้งตัวของอัลฟาลฟ่าเองก็จะไม่สะสมสารพิษ ชาวอาหรับโบราณรู้จักใช้ประโยชน์จากอัลฟาลฟ่า มากว่า 2,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยใช้เป็นพืชเลี้ยงสัตว์ เพื่อเพิ่มความเร็วและแข็งแรงให้กับม้า อีกทั้งยังใช้ใบมาตากแห้งชงเป็นชาดื่ม ด้วยคุณค่าทางอาหารที่มากมาย ชาวอาหรับจึงขนานนามอัลฟาฟ่า (Alfalfa) ให้เป็น AL-FAS-FAH-SHA หรือ"ราชาแห่งอาหารทั้งมวล"

ประโยชน์ของอัลฟาฟ่า (Alfalfa) 
1. สารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) ในอัลฟาลฟ่า เป็นไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) ในสตรีในวัยใกล้หมดประจำเดือน เอสโตรเจนจะลดต่ำลง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกาย และภาวะกระดูกเสื่อม ไฟโตเอสโตรเจนนี้ จะเข้าไปชดเชยเอสโตรเจนที่ต่ำลงและยังมีวิตามินดี แร่ธาตุ แคลเซียมและฟอสฟอรัส ทำให้กระดูกฟันแข็งแรง ลดความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะกระดูกเสื่อม และช่วยให้ร่างกายปรับสภาพได้อย่างเหมาะสมในสตรีในวัยใกล้หมดประจำเดือน เช่น อาการร้อนวูบวาบตามตัว หงุดหงิดง่ายให้ลดลง สามารถบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้ สำหรับผู้ที่มีอาการปวดประจำเดือนเป็นประจำ


2. สารซาโปนิน (Saponin) ในอัลฟาลฟ่า ช่วยป้องกันหรือชะลอการดูดซึมคอเลสเตอรอลจากอาหาร ดังนั้นจึงช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ป้องกันการเกิดภาวะการสะสมไขมันในหลอดเลือด และช่วยควบคุมระดับความเข้มข้นของคอเลสตอรอลให้เป็นปกติ

3.ช่วยทำความสะอาดผิวจากภายใน เนื่องจากโคโรฟิลล์ (Colophyll) จะทำหน้าที่ขจัดของเสีย สารพิษออกจากเลือด และอวัยวะภายใน (Blood and Bowel Cleanser) ลดการตกค้างของของเสียตามผิวหนัง ทำให้เลือดสะอาด และไหลเวียนได้ดีขึ้นเหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่รับประทานมากและชอบรับประทานเนื้อสัตว์ เมื่อเลือดดีขึ้นทำให้ผิวพรรณผ่องใสมีสุขภาพที่ดีตามมา สารไฟโตเอสโตรเจนในอัลฟาลฟ่า ยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้คนที่มีสิวง่ายเมื่อรับประทานอัลฟาลฟ่า ปริมาณการเกิดสิวจะลดลง และผิวจะดูสะอาดขึ้น
4.อัลฟาลฟ่า สามารถรักษาโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหารต่างๆ เช่น มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากเกิดอาการจุกเสียดเป็นประจำ โรคแผลในกระเพาะอาหาร และโรคเบื่ออาหาร โดยพบว่าอัลฟาลฟ่ามีวิตามินยู ซึ่ง ดร.กาเนนท์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย สแตนฟอร์ด กล่าวว่า วิตามินยู มีศักยภาพสูงในการรักษาโรคกระเพาะ ทำให้การสมานแผลในกระเพาะดีขึ้น และการหลั่งของน้ำย่อยเป็นปกติ การรักษาโรคของ อัลฟาลฟ่านี้อาจจะเป็นในลักษณะเดียวกันกับวิธีทางธรรมชาติของแมวหรือสุนัข ที่มักจะกินหญ้าเพื่อบรรเทาโรคกระเพาะของมันได้

5. บีเทน ไฮโดรคลอไรด์ (Betaine HCL)ในอัลฟาฟ่า ทำหน้าที่ย่อยโปรตีนและเอนไซม์อื่นๆ อีก 7 ชนิดที่ส่งเสริมปฏิกิริยาเคมี ที่สามารถทำให้การดูดซึมสารอาหารภายในร่างกายเป็นไปอย่างถูกต้อง และเหมาะสม รวมทั้งมีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ทำให้ผิวที่เคลือบกระเพาะอาหารมีความแข็งแรง
6.ช่วยลดอาการปวดข้อ ข้อแข็ง รูมาตอยด์ เนื่องจากสารอาหารในอัลฟาลฟ่าจะช่วยปรับสมดุล กรดด่างในร่างกาย ป้องกันการสะสมของกรดยูริคและกรดอื่นๆ ตามข้อต่อต่างๆ จากรายงานความมหัศจรรย์ ผลการใช้อัลฟาลฟ่าในหนังสือของแคทเทอรีน เอลวูล ชื่อ Feel Like a Million ทำให้คนไข้โรครูมาตอยด์ สามารถงอมือได้สะดวกยิ่งขึ้นและความเจ็บปวดก็หายไป

7.ช่วยเพิ่มการหลั่งของน้ำนม สำหรับมารดาที่กำลังให้นมบุตร และยังมีคุณสมบัติในการช่วยขับถ่ายปัสสาวะ ให้เป็นปกติได้อีกด้วย
8.จากผลการศึกษาสารไฟโตเอสโตรเจน ที่มีมากในอัลฟาลฟ่า ทั้งในมนุษย์และสัตว์ พบว่า สารไฟโตเอสโตรเจนมีบทบาทที่สำคัญในการป้องกันโรคมะเร็งได้

9.แพทย์ชาวจีนใช้ใบอ่อนอัลฟาลฟ่า เพื่อการรักษาอาการย่อยอาหารไม่ปกติมาตั้งแต่ในสมัยโบราณ เช่นเดียวกันกับแพทย์ชาวอินเดีย ที่ใช้ใบ และดอกสำหรับการรักษากระบวนการย่อยอาหารไม่ปกติ


สารสำคัญในโคโรฟิลล์

ระบบรากที่มีประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารมากกว่าพืชชนิดใดๆ ทำให้อัลฟาลฟ่าเป็นพืชที่มีส่วนประกอบของสารต่างๆ มากมาย โดยมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 8 ชนิด เช่น ไอโซลูซีน (Isoleucine) ลูซีน (Leucine) ไลซีน (Lysine) เมไทโอนีน (Methionine) เป็นต้น ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ แต่จำเป็นต้องมีไว้เพื่อประโยชน์ในการสร้างเซลใหม่ อีกทั้งอัลฟาลฟ่ายังมี วิตามิน เอ บี1 บี บี8 บี12 ซี ดี อี เค พี ยู และเกลือแร่อีกหลากชนิด เช่น ฟอสฟอรัส โปแตสเซียม แคลเซียม สังกะสี ซีลีเนียม และแมกนีเซียม เป็นต้น และยังมีเอนไซม์หลักอีกถึง 8 ชนิด คือ ไลเปส (Lipase) โคแอกกุเลส (Coagulase) อีมูลซิน (Emulsin) อินเวอร์เทส (Invertase) เปอร์อ๊อกซีเดส (Peroxidase) เพดติเนส (Pectinase) โปรติเอส (Protease) นอกจากนี้ อัลฟาลฟ่ายังมีสวนประกอบของสารอื่นๆ อีก เช่น เบต้าแคโรทีน (Betacarotene) ไบโอฟลาโวนอยส์ (Bioflavonoids) แคโรทีน (Carotene) โคลีน (Choline) คลอโรฟิลล์ (Chlorohpyll) ฟลาโวน (Flavene) ไอโซฟลาโวน (Isoflavone) สเตอรอล (Sterol) และซาโปนิน (Saponin) เป็นต้น ล้วนแต่เป็นสารที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกายด้วยกันทั้งนั้น
     

ปัจจุบัน อัลฟาฟ่าเป็นสารสำคัญที่มีอยู่ใน โคโรฟิลล์ (Colophyll)


โคโรฟิลล์ (Colophyll) มีสรรพคุณ ช่วยล้างพิษในร่างกาย เสริมสร้างภูมิต้านทาน และยังบำรุงเลือดอีกด้วย



โคโรฟิลล์ (Colophyll) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ผลิตภัณฑ์โคโรฟิลล์ (Colophyll) กำลังได้รับความนิยมที่สุดในขณะนี้
ปริมาณและราคา บรรจุ 100 กรัม ราคา 480 บาท

สั่งสินค้าคลิกที่นี้

ดูข้อมูลที่   http://colophyllsaibua.blogspot.com

สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

คุณ  สายบัว   บุญหมื่น    โทร. 088 415 3926

ID Line : bua300908

อีเมล์  sboonmuen@gmail.com

1 ความคิดเห็น:


  1. แนะนำทางเลือกใหม่
    สมุนไพรพลูคาวสกัดสด 100% จากพืชพลูคาว
    ทำลายยับยั้งเชื้อ (Hiv เอดส์) หูดหงอนไก่ สเก็ดเงิน ริดสีดวง มะเร็ง เบาหวาน ไต ไทรอย ไวรัสตับอักเสบบี อัมพฤกษ์ อัมพาต หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ภูมิแพ้ ตกขาว

    คนที่ใช้แล้วต้องบอกต่อทานแล้วอาการดีขึ้นจริง สำหรับท่านใดสนใจหรือต้องการสอบถาม
    สอบถามเพิ่มเติมที่ tel. 0959279523 ID line. Aofaudio0502

    ตอบลบ